อาลีฟ ส.เดชะพันธ์ ดาวรุ่งก้านยาวลูกครึ่งไทย-มาเลย์ เปิดใจยอมรับว่าเขาจะต้องกลับไปฝึกซ้อมให้หนักกว่าเดิมถึง 10 เท่า เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับไฟต์ต่อไป ที่อาจจะได้รับโอกาสสำคัญในการเปิดศึกชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต จาก พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม แชมป์โลกสองกติกาชื่อดัง

           ในการแข่งขันศึก ONE Fight Night 32 เมื่อวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา อาลีฟ ส.เดชะพันธ์ ซึ่งกำลังอยู่ในฟอร์มร้อนแรงเก็บชัยมา 3 ไฟต์ติดต่อกัน ได้รับการจับคู่ให้มาแลกเดือดกับ เอลเมห์ดี เอล จามารี คู่ชกจอมแกร่งจากโมร็อกโก ที่หวังมาหยุดสถิติของนักชกเจ้าถิ่น หลังจากการเปิดตัวอันน่าประทับใจด้วยการน็อก ทองพูน พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม ในยกแรก

           ภาพรวมของเกมการชกในไฟต์นี้เป็นทางด้าน อาลีฟ ส.เดชะพันธ์ ที่อาศัยความได้เปรียบจากช่วงชกที่ยาวกว่าในการออกอาวุธเก็บแต้มได้อย่างต่อเนื่อง จนเข้าป้ายชนะคะแนนเอกฉันท์เหนือ เอลเมห์ดี เอล จามารี เก็บชัยชนะไฟต์ที่ 4 ติดต่อกันได้สำเร็จ

           อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะได้ชัยชนะครั้งนี้มา อาลีฟ ส.เดชะพันธ์ ต้องเผชิญกับเหตุสุดวิสัยที่ไม่คาดคิด เมื่อเกิดอาการป่วยกะทันหันเพียงไม่กี่วันก่อนขึ้นชก แต่ด้วยหัวใจนักสู้ เขาตัดสินใจไม่ถอนตัว เพราะไม่อยากเสียเวลาที่ฝึกซ้อมมาอย่างหนัก จึงต้องเปลี่ยนแผนการชกใหม่ทั้งหมดเพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าบนเวที ซึ่งเป็นเหตุให้แฟนมวยบางส่วนวิจารณ์ว่าเขาชกผิดฟอร์มและต่ำกว่ามาตรฐาน

           “ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายตอนช่วงลดน้ำหนักครับ มีอาการไอทั้งคืน นอนไม่ค่อยได้ ผมโทรไปปรึกษาพี่เชษฐ์ ลูกพี่ถามกลับมาว่ายังชกไหวไหม ผมตอบว่าไหว ผมอยากชก แล้วลูกพี่ก็บอกให้ชกไปเลย ผมเลยตัดสินใจชกครับ เพราะในใจก็ไม่อยากถอนด้วย” อาลีฟ ส.เดชะพันธ์ เปิดใจถึงเหตุการณ์ก่อนชก

           “ไฟต์นี้ผมวางแผนมาเน้นชนะไว้ก่อน พยายามรักษาระยะไม่ให้ เอลเมห์ดี เอล จามารี เข้ามาใกล้ ไม่อยากไปบวกแลกด้วยเพราะหมัดเขาหนักมาก ซึ่งระหว่างเกมผมมีพลาดโดนไปจังๆ 1-2 หมัด รู้สึกเมาไปเหมือนกันครับ”

           “ยกสุดท้ายที่ผมถอยเยอะอย่างที่ทุกคนเห็น เป็นเพราะว่าระบบหายใจผมหายไปประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ถ้าร่างกายเป็นปกติ ผมมั่นใจว่าจะโชว์แม่ไม้มวยไทยได้มากกว่านี้ แต่โดยรวมแล้วผมรู้สึกดีใจมากที่เอาตัวรอดและเก็บชัยชนะมาได้ครับ”

           ในช่วงการให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขัน ทางรายการได้สร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ให้กับ อาลีฟ ส.เดชะพันธ์ ด้วยการเชิญ พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม แชมป์โลก ONE มวยไทย และคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต ให้ขึ้นมาประจันหน้ากันบนเวที ซึ่ง อาลีฟ ส.เดชะพันธ์ ได้เปิดใจถึงความรู้สึก ณ เวลานั้น พร้อมเผยบทสนทนาระหว่างเขากับรุ่นพี่เจ้าของแชมป์โลก 2 กติกา

           “ผมรู้สึกดีใจมากครับ ที่อาจจะได้โอกาสขึ้นชกกับ พี่พระจันทร์ฉาย ในไฟต์ต่อไป เพราะตอนที่พี่เขาเป็นแชมป์ มีชื่อเสียงโด่งดัง ผมยังไม่ได้เข้ามาชกในกรุงเทพฯ เลยด้วยซ้ำ ผมติดตามดูพี่เขาชกมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว รู้ดีว่าพี่เขาเก่งมากแค่ไหน การเข้าใกล้ความหวังที่จะได้สู้กับพี่เขา ยิ่งทำให้ผมมีแรงบันดาลใจในการฝึกซ้อมมากขึ้นกว่าเดิมครับ”

           “ตอนอยู่บนเวที ผมบอก พี่พระจันทร์ฉาย ว่า ‘เข็มขัดเส้นนี้ขอเป็นของผมบ้างนะพี่’ และพี่เขาตอบกลับมาว่า ‘ยากหน่อย’ แต่ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้ครับ หลังจากนี้ผมจะกลับไปซ้อมให้มากขึ้น ต้องซ้อมหนักกว่าเดิม 10 เท่า เพราะพี่เขาเก่งมาก และถ้าถึงวันที่ผมได้เจอพี่เขาจริง ๆ วันนั้นผลจะแพ้หรือชนะผมไม่รู้ แต่ที่รู้คือผมเต็มที่แน่นอน” อาลีฟ ส.เดชะพันธ์ กล่าวด้วยความมุ่งมั่น

[ เกร็ดมวย เซียนมวย ]

• หากการชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวตระหว่าง อาลีฟ ส.เดชะพันธ์ และ พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม เกิดขึ้นจริง จะเป็นไฟต์ที่น่าจับตาอย่างมาก เนื่องจากเป็นการเผชิญหน้าระหว่างดาวรุ่งฟอร์มร้อนแรงกับแชมป์โลกผู้เป็นตำนาน