“ผึ้งหลวง” ไร้ทางถอย! ทุ่มสุดตัวขอโค่น “ป้อมเพชร” กอบกู้ศรัทธาบนสังเวียน ONE ลุมพินี
ผึ้งหลวง บ้านแรมบ้า ยอดนักสู้ใจเด็ดจากอุบลราชธานี เตรียมขึ้นสังเวียนด้วยความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมในฐานะคู่รองของศึก ONE ลุมพินี 111 ในวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายนนี้ ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ที่จะถ่ายทอดสดไปทั่วโลก 195 ประเทศ เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
โดยมีเป้าหมายเดียวคือการคว้าชัยชนะเหนือ ป้อมเพชร พานทองยิม คู่ชกขาลุยจากบุรีรัมย์ เพื่อพลิกสถานการณ์หลังพิงฝาจากการพ่ายแพ้ 3 ไฟต์รวด
ในระยะหลังมานี้ ผึ้งหลวง เผชิญกับฟอร์มที่ตกลงอย่างน่าใจหาย จากสถิติไร้พ่าย 6 ไฟต์แรกบนสังเวียน ONE ลุมพินี สู่การพ่ายแพ้น็อกถึง 3 ไฟต์ติดต่อกัน โดยผลงานล่าสุดคือการถูก นักรบ แฟร์เท็กซ์ พลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะน็อกไปอย่างช็อกแฟนมวยทั่วประเทศในยกที่สองของศึก ONE ลุมพินี 101 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เมื่อย้อนดูความพ่ายแพ้ 3 ไฟต์หลังสุดของ ผึ้งหลวง สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือการที่ไม่สามารถรักษาโมเมนตัมความได้เปรียบได้ตลอดรอดฝั่ง แม้จะเป็นฝ่ายคุมเกมได้ก่อนก็ตาม โดยเฉพาะความใจร้อนที่เร่งเข้าไปปิดเกมจนขาดความรัดกุม เปิดช่องให้คู่ชกสวนกลับมาทุกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นจุดบกพร่องที่รู้ดี แต่ยังแก้ไม่ตกเมื่อก้าวเท้าขึ้นสังเวียน
"ผมเคยให้สัมภาษณ์ทุกครั้งว่าจุดบกพร่องของผมคือความใจร้อน และขาดการป้องกันตัวที่ดี ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าควรจะต้องชกรัดกุมและมีสติให้มากกว่านี้ แต่ด้วยสัญชาตญาณมวยบู๊อย่างผม เวลาคู่ชกมีอาการ ก็อดไม่ได้ที่จะรีบเข้าไปปิดเกม สุดท้าย เป็นผมที่พลาดโดนสวนกลับทุกที" ผึ้งหลวง กล่าว
สำหรับไฟต์นี้ ผึ้งหลวง ได้รับการกำชับให้มีสติและใจเย็นขึ้น ซึ่งเจ้าตัวให้คำมั่นสัญญาว่าจะพยายามชกให้รัดกุมกว่าเดิม "ต่อให้ได้เปรียบ ผมจะไม่เร่ง และคิดถึงผลชนะเอาไว้ก่อน เพราะผมได้บทเรียนมาพอแล้ว ไม่อยากแพ้เป็นไฟต์ที่ 4 ติดต่อกันครับ"
การแพ้น็อก 3 ไฟต์ติดกันย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจอย่างหนัก แต่ ผึ้งหลวง สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นมาได้ด้วยกำลังใจจากครอบครัว โดยเฉพาะภรรยาสุดที่รัก และ น้องราชา ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนวัย 1 ขวบ 10 เดือน ที่เป็นแรงฮึดให้เขากลับมาสู้ต่ออีกครั้ง
"การแพ้น็อกติดต่อกัน 3 ไฟต์ บอกตรง ๆ ว่าในช่วงแรกผมรู้สึกท้อมากครับ แต่ตอนนี้ไม่ท้อแล้ว เพราะที่ผ่านมาภรรยาจะคอยพูดปลอบใจตลอด บอกว่าผมทำได้ดีแล้ว ให้ตั้งใจทำหน้าที่ต่อไป เขาพร้อมเป็นกำลังใจให้ผมเสมอ คุณพ่อคุณแม่ก็ให้กำลังใจเหมือนกัน ท่านบอกว่าอย่าท้อ สักวันต้องเป็นวันของเรา"
"โดยเฉพาะตอนที่ผมเห็นหน้าลูกชาย ก็คิดได้ทันทีว่า ผมจะท้อไม่ได้ ผมต้องสู้เพื่อครอบครัวและทำให้ลูกชายของผมภูมิใจ ซึ่งตอนนี้ผมมีกำลังใจเต็มที่ พร้อมจะกลับมาสู้ต่อแล้วครับ"
การกลับมาขึ้นสังเวียนไฟต์ที่ 12 ของ ผึ้งหลวง จะต้องเผชิญหน้ากับ ป้อมเพชร ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์กดดันไม่แพ้กัน หลังสะดุดแพ้มา 2 ไฟต์ติด เขาจึงตัดสินใจขยับขึ้นมาชกในรุ่นฟลายเวตเป็นครั้งแรก เพื่อหวังใช้เป็นจุดเปลี่ยนในการกลับมาเก็บชัยชนะอีกครั้ง
ขณะที่ ผึ้งหลวง ตระหนักดีว่าไฟต์นี้จะแพ้ไม่ได้อีกเป็นอันขาด จึงพร้อมทุ่มทุกอย่างที่มีบนสังเวียน ขอเก็บชัยชนะมาครองให้ได้สถานเดียว เพื่อรักษาโอกาสได้ไปต่อบนเวทีแห่งนี้
" ป้อมเพชร เป็นมวยฝีมือจังหวะดี จุดแข็งของเขาคืออาวุธที่หลากหลาย ส่วนจุดอ่อนผมคิดว่าเขาโดนหนักไม่ได้ มีหล่นให้เห็นตลอด และที่ผ่านมา เขาเจอแต่คู่ชกหนัก ๆ ทั้งนั้น ต้องไปรอดูบนเวทีว่าเขาจะทนอาวุธของผมได้ไหม"
"รูปเกมในไฟต์นี้น่าจะออกมาตึงแน่ ๆ เพราะต่างฝ่ายต่างอยากชนะ ผมมั่นใจว่าถ้าเป็นเรื่องความหนักและความไว ผมไม่แพ้เขาแน่นอน อีกอย่างเขาเพิ่งขยับมาชกรุ่นฟลายเวตครั้งแรก อาจจะทำให้ออกอาวุธและเคลื่อนที่ช้าลงกว่าที่เคย ซึ่งผมเองสู้ในรุ่นนี้มานานกว่า น่าจะได้เปรียบตรงนี้ด้วยครับ"
"ไฟต์นี้สำคัญมากสำหรับผม ผมพร้อมสู้แบบคนไม่มีอะไรจะเสีย จะพยายามทำทุกทางเพื่อคว้าชัยชนะให้ได้เท่านั้น เพราะถ้าแพ้อีก คงต้องรออีกนานกว่าจะได้โอกาสกลับมาพิสูจน์ตัวเองที่นี่อีกครั้ง แต่ผมไม่กดดันตัวเองมากเกินไป เดี๋ยวจะกลายเป็นทำผลงานออกมาได้ไม่ดีครับ"
[ เกร็ดมวย เซียนมวย ]
- ผึ้งหลวง เป็นมวยสไตล์บู๊ดุดัน มีอาวุธหนัก แต่ก็ยอมรับว่ามีจุดอ่อนเรื่องความใจร้อนและการป้องกันตัวที่ยังไม่รัดกุม ทำให้มักจะพลาดท่าเมื่อพยายามเร่งเกมเพื่อปิดบัญชีคู่ต่อสู้