เช็กฟิต 3 ขุนพล! "จ้าวเสือใหญ่-แรมโบ้เล็ก-อาลีฟ" พร้อมลุย ONE Fight Night 32
ค่ายมวย ส.เดชะพันธ์ คึกคักไปด้วยบรรยากาศการซ้อมและสื่อมวลชน เมื่อ 3 นักสู้ดาวดังอย่าง จ้าวเสือใหญ่ ม. กรุงเทพธนบุรี, แรมโบ้เล็ก ฉ.อจลบุญ และ อาลีฟ ส.เดชะพันธ์ ได้เปิดค่ายต้อนรับกองทัพสื่อ เพื่ออัปเดตความพร้อมล่าสุดผ่านกิจกรรมเช็กฟิต ก่อนที่พวกเขาจะแท็กทีมกันไปล่าชัยชนะในศึก ONE Fight Night 32
ซึ่ง ศึก ONE Fight Night 32 จะระเบิดความมันจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) สู่สายตาแฟนกีฬาการต่อสู้ใน 195 ประเทศทั่วโลก โดยจะถ่ายทอดสดในช่วงไพรม์ไทม์ของสหรัฐอเมริกา ตรงกับเวลา 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายนนี้ ตามเวลาประเทศไทย
เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ ค่ายมวย ส.เดชะพันธ์ ทั้ง จ้าวเสือใหญ่, แรมโบ้เล็ก และ อาลีฟ ได้โชว์เนื้อตัวที่ฟิตเปรี๊ยะ พร้อมซ้อมโชว์ความแข็งแกร่งให้สื่อมวลชนได้เก็บภาพอย่างเป็นกันเอง พวกเขายังให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงความพร้อมก่อนขึ้นสังเวียนพร้อมกันในศึก ONE Fight Night 32
โดย จ้าวเสือใหญ่ ที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นมาชกบนเวที ONE ใหญ่ เป็นครั้งแรก และต้องเจอกับศึกหนักกับ นักรบ แฟร์เท็กซ์ ผู้ท้าชิงอันดับ 4 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ปอนด์) ได้เผยถึงเป้าหมายว่าต้องการเก็บชัยชนะเพื่อลุ้นติดแรงกิงในรุ่นนี้ให้ได้
"ไฟต์นี้ ผมเก็บตัวซ้อมประมาณเดือนนิด ๆ ความพร้อมตอนนี้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วครับ เรื่องน้ำหนักไม่มีปัญหา ส่วนการเปลี่ยนมาชกตอนเช้าผมคิดว่าไม่มีผล เพราะผมเปลี่ยนมาซ้อมในช่วงเช้าให้หนักขึ้นกว่าเดิมครับ" จ้าวเสือใหญ่ กล่าวถึงความพร้อมของตนเอง
" นักรบ เป็นมวยที่มีจุดแข็งคือเรื่องความทนและเดินออกอาวุธได้ตลอด ส่วนจุดอ่อนก็คือเข้ามวยหลวม ซึ่งผมเตรียมแผนรับมือไว้แล้ว ถ้ามีจังหวะแลก ผมพร้อมแลกเต็มที่ และจะใช้จังหวะสองให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถ้ามีโอกาสปิดเกม ผมก็อยากจะทำให้ได้ทันทีครับ" เขาวิเคราะห์คู่ชกอย่าง นักรบ และปิดท้ายด้วยความมุ่งมั่น
"สำหรับไฟต์แรกของผมบนเวที ONE ใหญ่ ผมตั้งใจจะชกให้สนุก สู้ให้ถึงที่สุด และโชว์แม่ไม้มวยไทยให้ทุกคนได้เห็น และไฟต์นี้ยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผม เพราะถ้าชนะ นักรบ ได้ ก็อาจมีสิทธิ์เข้าไปติดในท็อปแรงกิง ซึ่งผมหวังว่าจะเปิดตัวได้อย่างสวยงามครับ"
ขณะที่ แรมโบ้เล็ก ฉ.อจลบุญ จอมบู๊อาวุธคมจากชัยภูมิ เจ้าของตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 5 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ปอนด์) ที่มีคิวต้องพบกับ ดีมิทรี คอฟตุน มวยหมัดเดือดจากรัสเซีย ได้ยืนยันถึงความพร้อมในการรักษาตำแหน่งในแรงกิงของตนเอง
"สำหรับ ดีมิทรี เขาเป็นมวยที่เดินได้ถอยเป็น อาวุธอันตรายที่สุดของเขาคือหมัดและความเร็ว แต่จากที่ไปย้อนดูคลิปการชกมา เห็นว่าเขาแทบไม่บังแข้งเลย ไฟต์นี้ผมเลยเตรียมแข้งมาเป็นพิเศษ ส่วนแผนแก้ทางเขาผมก็เตรียมมาไว้แล้ว แต่ขออุบไว้ก่อน ให้รอดูบนเวทีครับ" แรมโบ้เล็ก กล่าว
แรมโบ้เล็ก เผยความตั้งใจว่า "ผมเก็บตัวซ้อมเพื่อไฟต์นี้มาเกือบ 2 เดือน ความพร้อมตอนนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วครับ ผมตั้งใจมาก อยากเก็บชัยชนะเพื่อทำฟอร์มและไต่แรงกิงขึ้นไปเรื่อย ๆ ให้ถึงแชมป์ให้ได้ ซึ่งถ้าผ่านไฟต์นี้ไปได้ ในใจผมก็มีคนที่อยากเจอด้วยในไฟต์ต่อไปแล้วครับ"
ด้าน อาลีฟ ที่มีคิวต้องดวลเดือดกับ เอลเมห์ดี เอล จามารี ในกติกามวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ปอนด์) ก็ออกมาประกาศความพร้อมที่จะออกล่าชัยชนะไฟต์ที่ 4 ติดต่อกัน เพื่อทำฟอร์มสู่การขึ้นชิงบัลลังก์มวยไทยของรุ่นนี้ต่อไป
"หลังจากซ้อมมา 2 เดือน ตอนนี้ ความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วครับ ไฟต์นี้ ผมเสริมเรื่องความแข็งแรงเข้าไป ผมเคยชกกับพี่ชายของ เอลเมห์ดี มาแล้ว สไตล์ทั้งคู่คล้าย ๆ กัน แต่ผมคิดว่าคนน้องเก่งกว่า ซึ่งผมก็เตรียมแผนแก้ทางมาแล้ว โดยต้องระวังหมัดและต้องป้องกันตัวให้ดีที่สุดครับ" อาลีฟ กล่าว
อาลีฟ ได้กล่าวปิดท้ายถึงความมุ่งมั่นว่า "ครั้งนี้ผมอยากได้โบนัส จะพยายามปิดเกมน็อกให้ได้ ส่วนเป้าหมายของผมคืออยากเป็นแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต ให้ได้ ซึ่งต้องขึ้นกับทางโปรโมเตอร์ว่าจะจัดให้เมื่อไหร่ ถ้าเห็นว่าเหมาะสม ผมก็พร้อมครับ แต่ต้องผ่านไฟต์นี้ไปให้ได้ก่อน และค่อยดูไปทีละไฟต์ครับ"
[ เกร็ดมวย เซียนมวย ]
- ซากาเรีย เอล จามารี เป็นพี่ชายของ เอลเมห์ดี และเป็นนักมวยที่มีประสบการณ์และมีสไตล์การชกที่ดุดัน
- เขาแข่งขันในเวที ONE Championship และเคยเอาชนะนักชกไทยอย่าง ทองพูน พีเค.แสนชัย มาแล้ว
- เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับน้องชายคือ เอลเมห์ดี เอล จามารี และทั้งสองมักจะฝึกซ้อมด้วยกัน