วงการมวยสากลไทยเตรียมต้อนรับศึกนานาชาติครั้งยิ่งใหญ่ "ไทยแลนด์ โอเพ่น อินเตอร์เนชั่นแนล บ็อกซิ่ง ทัวร์นาเมนต์ 2025" ครั้งที่ 4 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 24 พฤษภาคม - 1 มิถุนายนนี้ ณ อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก กรุงเทพฯ 

           โดยล่าสุดมีถึง 25 ชาติตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันชิงชัยถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งในประเภทชายและประเภทหญิง

           พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความพร้อมในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ว่า ทีมกำปั้นไทยมีความมุ่งมั่นที่จะใช้เวที "ไทยแลนด์ โอเพ่น" เป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาศักยภาพนักกีฬา 

           โดยจะส่งนักมวยเข้าร่วมถึง 5 ทีม ได้แก่ ทีมชาติไทยชุดเอ, บี, ซี, ดี และอี การส่งนักกีฬาเข้าร่วมจำนวนมากเช่นนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้นักมวยไทยได้มีโอกาสประลองฝีมือกับนักชกนานาชาติ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปีนี้

           "เราจะเน้นพิกัดน้ำหนักที่สอดคล้องกับรุ่นในโอลิมปิกเป็นหลัก แต่ก็อาจจะมีการเพิ่มรุ่นเล็กเข้าไปด้วย เนื่องจากนักมวยส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการแข่งขันมาจากทวีปเอเชีย" พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ กล่าว 

           พร้อมเสริมว่า การแข่งขันจะเริ่มขึ้นในวันที่ 24 พฤษภาคม เวลา 13.00 น. ณ อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก และนักมวยคนใดที่สามารถโชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่น ก็จะมีโอกาสได้รับการพิจารณาเป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์

           สำหรับรายชื่อ 25 ชาติที่ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ประกอบด้วย ทีมไทย (ชุดเอ, บี, ซี, ดี, อี), ฮ่องกง, สิงคโปร์, กาบอง, เกาหลีใต้, อินโดนีเซีย, ไต้หวัน, ปาเลสไตน์, ฟิลิปปินส์, เกาหลีเหนือ, นาอูรู, มาเลเซีย, มองโกเลีย, เนปาล, กัมพูชา, อิหร่าน, กีนี, ญี่ปุ่น, ยูเครน, คาซัคสถาน, จีน, จอร์แดน, ภูฏาน, อุซเบกิสถาน และแอนติกัว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจและการยอมรับในมาตรฐานการจัดการแข่งขันของประเทศไทยในระดับนานาชาติ

[ เกร็ดมวย 7M ]

• การแข่งขัน "ไทยแลนด์ โอเพ่น" ถือเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักมวยดาวรุ่งและนักมวยทีมชาติได้แสดงศักยภาพและพัฒนาฝีมือ 
• การที่สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมถึง 5 ทีม สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างนักมวยสายเลือดใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมชาติในระยะยาว 
• การมีนักมวยจากหลากหลายชาติเข้าร่วมยังเป็นการยกระดับมาตรฐานการแข่งขันและเป็นโอกาสให้นักกีฬาไทยได้เรียนรู้สไตล์การชกที่แตกต่างกัน