เปิดโลก MMA! 5 เรื่องสำคัญที่มือใหม่ต้องรู้ ก่อนดูการต่อสู้ให้มันแบบมืออาชีพ
การต่อสู้แบบผสมผสาน (Mixed Martial Arts) หรือ MMA กำลังก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในกีฬาต่อสู้ที่ดึงดูดความสนใจคนทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว ด้วยรูปแบบที่สะท้อนสัญชาตญาณการเอาตัวรอดในชีวิตจริงอย่างใกล้เคียงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเตะ ต่อย ปล้ำ รัด หรือล็อกคู่ต่อสู้ ทุกองค์ประกอบถูกนำมาใช้อย่างอิสระและไร้ข้อจำกัดตามตำรา
บนสังเวียน MMA นักกีฬาแต่ละคนจึงต้องเชี่ยวชาญในทุกมิติ ทั้งเกมยืน, เกมภาคพื้น และการทำซับมิชชัน ทุกจังหวะอาศัยทักษะ ประสบการณ์ สัญชาตญาณ และความไวระดับเสี้ยววินาที และนี่คือ 5 เรื่องสำคัญที่มือใหม่ต้องทำความเข้าใจ เพื่อดู MMA ได้อินกว่าเดิม เห็นเกมชัดขึ้น และสนุกเหมือนนั่งอยู่ขอบสังเวียนจริง
1. MMA คือการรวมสุดยอดศาสตร์การต่อสู้จากทั่วโลก ชื่อ "ผสมผสาน" หรือ MMA เป็นเครื่องยืนยันว่ากีฬานี้ได้รวบรวมศิลปะการต่อสู้จากหลากหลายชาติมาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น มวยไทย, คิกบ็อกซิ่ง, มวยปล้ำ, ยูโด, บราซิลเลียนยิวยิตสู (BJJ) และคาราเต้ ผู้ชมจะได้เห็นเกมการต่อสู้ที่สลับไปมาระหว่างการยืนแลกหมัด การปล้ำชิงจังหวะ ไปจนถึงการสู้บนพื้น ทำให้รูปแบบการต่อสู้ในแต่ละไฟต์มีความคาดเดาได้ยากและตื่นเต้นตลอดเวลา
2. อาวุธครบมือ! ตั้งแต่หมัด เท้า เข่า ศอก จนถึงการรัด–ล็อก ด้วยการผสมผสานศาสตร์ต่าง ๆ อาวุธที่ใช้บนสังเวียนจึงมีครบทุกรูปแบบ ตั้งแต่การโจมตีด้วย หมัด เท้า เข่า ศอก แบบมวยไทย ความเร็วของมวยสากล เทคนิคการเตะต่อยสไตล์คิกบ็อกซิ่ง ไปจนถึงอาวุธสำคัญในเกมภาคพื้นอย่างการรัดคอ (Choke) ล็อกแขน (Arm Lock) หรือล็อกขา (Leg Lock) ซึ่งเป็นเทคนิคที่อาจจบเกมได้อย่างรวดเร็ว
3. ล้มแล้วซ้ำได้ ไฟต์จะเดินต่อจนกว่าจะป้องกันตัวไม่ได้ สิ่งที่แตกต่างจากมวยไทยอย่างชัดเจนคือ "การล้มแล้วซ้ำได้" ใน MMA ไฟต์จะดำเนินต่อไปแม้ว่านักกีฬาจะล้มลงไปอยู่บนพื้นแล้วก็ตาม ผู้ตัดสินจะไม่สั่งหยุดและไม่มีการนับ 10 เหมือนมวยสากลหรือมวยไทย จนกว่าจะเห็นว่าฝ่ายที่โดนโจมตี "ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้อย่างสมเหตุสมผลแล้ว" ถึงจะสั่งยุติการแข่งขัน (TKO/KO) อย่างไรก็ตาม มีข้อห้ามสำคัญคือ ห้ามเตะหรือเข่าใส่ศีรษะคู่ต่อสู้ที่อยู่บนพื้น
4. ไม่มีระบบ "การนับ" แต่เน้นการป้องกันตัว MMA ไม่มีระบบนับ 10 เมื่อล้มลงหรือโดนโจมตีอย่างรุนแรง นักสู้ที่ล้มลงพื้นยังคงมีสิทธิ์ในการป้องกันตัว ขยับหนี หรือใช้เทคนิคโจมตีสวนกลับคู่ต่อสู้ได้ ผู้ตัดสินจะปล่อยให้ไฟต์เดินต่อไปตามธรรมชาติของการต่อสู้ เว้นแต่ในกรณีที่เห็นว่าฝ่ายที่อยู่บนพื้นไม่สามารถป้องกันตัวได้จริง ๆ หรือมีการทำซับมิชชันอย่างสมบูรณ์แล้วเท่านั้น
5. นักกีฬาสามารถขอ "จบไฟต์" เองได้ เมื่อนักกีฬาตกอยู่ในท่าล็อกหรือรัดคอที่อันตรายและไม่มีทางหนี พวกเขาสามารถส่งสัญญาณ "แท็ปเอาต์" (Tap Out) ด้วยการใช้มือตบไปที่พื้น สังเวียน หรือร่างกายคู่ต่อสู้หลายครั้ง เพื่อขอยอมแพ้ทันทีและยุติการแข่งขัน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยป้องกันไม่ให้นักกีฬาบาดเจ็บรุนแรงถึงขั้นสลบหรือกระดูกหัก
[ เกร็ดมวย เซียนมวย ]
- แชมป์โลก MMA มีหลายคน ขึ้นอยู่กับองค์กรและรุ่นน้ำหนัก เช่น "แอมป์" กัณจุฑา ภัทรบุญซ้อน คว้าเหรียญทอง MMA รุ่น 52.2 กก. หญิงในศึก GAMMA World Championship 2025 ที่บราซิล ส่วน ฟาบริซิโอ อานดราเด เป็นแชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวตคนปัจจุบัน และ อนาโตลี มาลีคิน คือแชมป์โลก MMA 3 รุ่นคนแรกในประวัติศาสตร์ของ ONE
ข่าวอื่น ๆ
WBC สวมบทฮีโร่! จัด 4 รถบรรทุกใหญ่ ส่งธารน้ำใจถึงชาวใต้
สังเวียนใจบุญ! “แรมโบ้เล็ก ฉ.อจลบุญ” ประมูลชุดมวยส่งน้ำใจช่วยใต้
"รองเชษฐ์" วางแผนใหญ่! ดัน "อาลีฟ-จ้าวเสือใหญ่" ยึดรุ่นสตรอว์เวต
5 คีย์หลัก! เจาะลึก MMA แบบมืออาชีพ ดูให้เข้าใจ เหมือนโค้ชข้างสนาม
“ก้องธรณี” กู้ศรัทธา! ดวลฮอต “อิมานกาซาลิเอฟ” ใน ONE Fight Night 39
ผลมวยศึกมวยไทยพลังใหม่ ประจำวันพุธที่ 3 ธันวาคม 2568
ผลมวยวันนี้ “พันโท” แข้งโหดเรียกแผลแตก! น็อค “เคน” ยก 3
ผลมวยวันนี้ “ศิลานิล” รัวหมัด! น็อค “รุ่งลำพอง” ยก 3
ผลมวยวันนี้ “พิชัย” เตะขาเจาะยาง! น็อค “ผาด่าน” ยก 1