สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์ นักสู้สาวออสเตรีย มั่นใจว่าเกมการชกในศึกชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต ที่ว่างอยู่ กับ แจ็กกี บุนตัน แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเดียวกันจากสหรัฐอเมริกา จะออกมาสนุกสุดมันแน่นอน โดยทั้งคู่จะดวลกันในฐานะคู่เอกของศึก ONE Fight Night 35 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 08:00 น. ในวันเสาร์ที่ 6 ก.ย.นี้

           ในศึกชิงตำแหน่งราชินี ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต ครั้งนี้ สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์ ที่สร้างชื่อดังไกลไปทั่วโลกในฐานะนักสู้คนที่ 27 จากเวที ONE ลุมพินี ที่สามารถพิชิตสัญญา ONE มาครอง จะต้องพบกับคู่ชกฝีมือฉกาจอย่าง แจ็กกี บุนตัน ที่ครองบัลลังก์คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเดียวกัน ซึ่ง สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์ เชื่อมั่นว่าด้วยความระดับฝีมือที่ใกล้เคียงกัน จะทำให้เกมการชกในไฟต์นี้ต้องออกมาสุดมันระดับ 5 ดาวอย่างแน่นอน

           “ แจ็กกี บุนตัน มีสไตล์การชกยอดเยี่ยมและทรงพลัง เธอรู้วิธีปรับเกมให้เหมาะกับแต่ละไฟต์ หลายไฟต์ที่ผ่านมาใน ONE เธอโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม แต่ถ้าเป็นเรื่องเทคนิค ฉันเองก็มั่นใจว่ามีดีไม่แพ้กัน ทำให้ไฟต์นี้ยิ่งน่าจับตามอง เพราะเรามีสไตล์ที่ใกล้เคียงกัน”

           “ฉันเชื่อว่านี่จะเป็นไฟต์คุณภาพของเรา และไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาอย่างไร แฟน ๆ จะได้ชมเกมการชกที่สนุก ตื่นเต้น และคุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน”

           อีกหนึ่งแรงผลักดันสำคัญของ สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์ ในไฟต์นี้ คือโอกาสที่เธอจะจารึกชื่อลงไปบนหน้าประวัติศาสตร์ในฐานะชาวออสเตรียคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์โลก ONE มาครอง และตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะทุ่มสุดแรงเพื่อเสกความฝันนี้ให้เป็นจริง

           “การเตรียมตัวครั้งนี้ ฉันไม่ได้โฟกัสแค่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่ต้องพร้อมทุกด้าน ฉันทุ่มเทเต็มที่เหมือนทุกไฟต์ เพื่อพัฒนาตัวเองให้เป็นนักสู้ที่เก่งที่สุด และเมื่อขึ้นสังเวียน ฉันจะโฟกัส 100 เปอร์เซ็นต์และโชว์สิ่งที่ได้จากการซ้อมมาอย่างหนัก”

           “สำหรับฉัน แค่การได้โอกาสขึ้นชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE ก็ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ในชีวิตนักสู้แล้ว และหากสามารถคว้าแชมป์มาครองได้จริง ๆ มันคงจะเป็นเหมือนฝันที่เป็นจริง และเป็นเกียรติสูงสุดบนเส้นทางอาชีพนี้”

[ เกร็ดมวย เซียนมวย ]

• สเตลลา เฮเมตซ์เบอร์เกอร์ เติบโตมากับครอบครัวในเมืองซัลทซ์บวร์ค ประเทศออสเตรีย เมื่ออายุได้ 13 ปี เธอเริ่มมองหายิมเพื่อฝึกมวยสากล แต่ด้วยความบังเอิญ เธอกลับได้พบกับยิมมวยไทยแทน และทันทีที่ได้ลองฝึกในวันแรก เธอก็ตกหลุมรักมวยไทยเข้าเต็มหัวใจ จนตัดสินใจเดินหน้าฝึกฝนอย่างจริงจัง